นอกจากผ้าม่านจะใช้ในเรื่องการกันแสงแล้ว ผ้าม่านยังเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชนิดหนึ่งในการตกแต่งบ้านด้วย ผ้าม่านจึงต้องได้รับการดูแลรักษาหรือซักอย่างถูกวิธี ดังนั้นผ้าม่านหลังจากที่ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว นับจากนี้ไปอีก 2 ปีค่อยลงมือซักผ้าม่านครั้งที่ 1 สำหรับบ้านหรือห้องที่ไม่ค่อยได้เปิดรับฝุ่นเท่าไหร่ หรือกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาซัก แต่หลังจากนั้นการซักผ้าม่านควรจะทำอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้งานของผ้าม่าน ส่วนผ้าม่านที่โดนแสงแดดเป็นประจำ ควรซักผ้าม่านอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง เพราะผ้าม่านที่โดนแดดแรงๆเป็นประจำเนื้อผ้าม่านจะกรอบและขาดง่ายกว่า
|
วิธีการซักผ้าม่านด้วยตัวเอง | ผ้าม่าน |
1. |
ถอดผ้าม่านออกจากรางม่าน ม่านบางชนิดอาจมีวิธีการถอด ควรปรึกษาช่าง |
2. |
นำผ้าม่านที่ถอดออกมาแล้ว ปลดตะขอ โซ่ถ่วงหรืออุปกรณ์ที่ติดมากับตัวผ้าม่าน |
3. |
นำผ้าม่านที่ถอดอุปกรณ์แล้ว ซักด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อคราบสกปรกหรือฝุ่นที่ไม่ฝังแน่นออกจากผ้าม่านก่อน |
4. |
หลังจากที่ซักผ้าม่านด้วยน้ำสะอาดแล้ว ถ้าผ้าม่านยังสกปรกอยู่ ควรแช่ผ้าม่านทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชม. |
5. |
นำผ้าม่านลงเครื่องซักผ้า เลือกโปรแกรมซักผ้าหนาและไม่ควรซักผ้าด้วยน้ำร้อน เพราะอาจทำให้ผ้าม่านบางชนิดเกิดความเสียหายได้ หลังจากซักผ้าม่านเสร็จแล้วปั่นให้หมาด แล้วนำออกจากเครื่องทันที นำผ้าม่านที่ซักแล้วมาใส่ตะขอและนำไปแขวนที่รางม่านให้เหมือนเดิม จับจีบผ้าม่านให้เข้าที่เหมือนเดิม การแขวนผ้าม่านทันทีหลังซักเสร็จจะทำให้ผ้าม่านไม่ยับ ซึ่งผ้าม่านบางชนิดอาจไม่จำเป็นต้องรีดเลยก็ได้ เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสะดวก รูดปิดผ้าม่านให้ทุกส่วนสัมผัสอากาศ ไม่นานผ้าม่านก็จะแห้งและกลับมาใหม่เหมือนเดิม |
6. |
หลังจากผ้าม่านแห้งแล้ว กรณีที่ผ้าม่านมีรอยยับ สามารถใช้เตารีดไอน้ำแบบตั้งพื้น รีดผ้าม่านเก็บความเรียบร้อยอีกครั้ง |